นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวมาว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม65 ที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตได้ร่วมลงนามข้อตกลงตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากับบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เพื่อเกื้อหนุนส่วนลดสำหรับในการซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี 18,000 บาท ต่อคัน นับเป็นรายที่ 3 ของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จากที่ผ่านมาได้ลงนาม กับเอช เซม และเดโก้ กรีน

กรมสรรพสามิตเผยค่ายรถยนต์มีชีวิตชีวาเข้าโครงการหนุนอีวี

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวมาว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม65 ที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตได้ร่วมลงนามข้อตกลงตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากับบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เพื่อเกื้อหนุนส่วนลดสำหรับในการซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี 18,000 บาท ต่อคัน นับเป็นรายที่ 3 ของรถยนต์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จากที่ผ่านมาได้ลงนาม กับเอช เซม และเดโก้เก๋ กรีน

โดยจนถึงปัจจุบันนี้มีรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาขอรับการช่วยส่งเสริมแล้ว 7 ราย แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 5 ราย และรถกระบะ 2 ราย และเร็วๆนี้ ค่ายรถยนต์เนตาจะเข้ามาลงนามกับกรมสรรพสามิต ส่วนปีถัดไปจะทยอยมาอีกหลายราย โดยรถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับการช่วยส่งเสริมคันละ 70,000 บาท ส่วนรถกระบะไฟฟ้าคันละ 150,000 บาท

ทั้งนี้นับตั้งแต่เปิดให้ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าร่วมโครงการตั้งแต่เมื่อปลายปี 2564

จนถึงตอนนี้ มีรถยนต์ไฟฟ้าร่วมโครงการแล้ว 25,000 คัน ส่วนขั้นตอนการจ่ายเงินอุดหนุนให้กับผู้ประกอบธุรกิจนั้น กรมสรรพสามิตจะจ่ายเป็นรายไตรมาส โดยค่ายรถยนต์อีวีต้องยื่นเอกสารหลักฐานแนวทางการขาย การจดทะเบียน และป้ายภาษี ให้เสร็จสมบูรณ์ ประกอบการเบิกจ่าย ซึ่งปัจจุบันนี้ค่ายรถยนต์จากเกรทวอลล์ และเอ็มจี ได้ทยอยส่งปริมาณรถที่ลงทะเบียนสำเร็จมากรมสรรพสามิตแล้ว 500 คัน วงเงินประมาณ 50 ล้านบาท “คาดว่างบประมาณ 3,000 ล้านบาท จะเพียงพอสำหรับในการอุดหนุนมาตรการส่งเสริมรถยนต์อีวีในปีงบประมาณ 2566 นี้ โดยรถยนต์จากประเทศจีน ถือว่ามีความพร้อมมากกว่า ก็เลยได้มาลงนามในข้อตกลงร่วมโครงการก่อน ขณะที่ค่ายประเทศญี่ปุ่นก็เตรียมความพร้อมเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ละค่าย แต่ละประเทศ เนื่องจากว่าทุกค่ายรถยนต์ทั่วทั้งโลก มุ่งสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อลด มลภาวะทางอากาศลง”.