บางจาก ประกาศซื้อหุ้นทั้งหมดของ เอสโซ่ประเทศไทย ดีล 55,500 ล้าน

บางจาก ประกาศซื้อหุ้น และทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ เอสโซ่ประเทศไทย 55,500 ล้านบาท ครอบคลุม โรงกลั่น 1.7 แสนล้านบาร์เรล คลังที่เอาไว้สำหรับเก็บน้ำมัน เครือข่ายสถานีบริการ 700 แห่ง

วันที่ 12 ม.ค. 2566 บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“บางจากฯ”) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 ได้มีมติเอกฉันท์อนุมัติการเข้าทำธุรกรรมและเห็นดีเห็นงามให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิเคราะห์อนุมัติ การเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“เอสโซ่”) จาก ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. (“ExxonMobil”)

เปิดประวัติ เสี่ยจั๊บ เจ้าของรถหรูเบนท์ลีย์ “สุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์”
เปิดสูตรลับ ส.ว.โหวตนายกฯ รวมพลังงดออกเสียง ปิดทางพลิกขั้วรัฐบาล
นักท่องเที่ยวจีนทะลักเข้าไทย กระทบอินเดียแห่ยกเลิกตั๋ว
โดยบางจากฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับ ExxonMobil เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 และคาดว่าจะสามารถดำเนินการซื้อขายและชำระเงินค่าหุ้นแก่ผู้ขายได้ภายในครึ่งหลังของปี 2566 โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนด และเตรียมพร้อมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด (tender offer) ของเอสโซ่ หลังจากการทำธุรกรรมกับ ExxonMobil เสร็จสิ้น

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนคราวนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงทางพลังงาน ที่มากเพิ่มขึ้นของบางจากฯ และประเทศไทย เป็นการลงทุนที่สอดคล้องกับที่มีความสำคัญในการรบที่เพิ่มความคงทน และเพิ่มการเข้าถึงพลังงานได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ผมเชื่อถือว่าการทำธุรกรรมครั้งนี้ ถือว่าเป็นการกลับโฉมสู่บริบทใหม่ สำหรับบางจากฯ และประเทศไทย

บางจาก

บางจาก ลงทุนคราวนี้มีสินทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่อง เป็นโรงกลั่นน้ำมันกำลังการกลั่น 174,000 บาร์เรลต่อวัน

เครือข่ายคลังที่เอาไว้เก็บน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมันทั้งประเทศกว่า 700 แห่ง ก่อเกิดการประหยัดเชิงขนาด และช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นเงินลงทุนของบริษัท โดยจะมีผลให้บางจากฯ มีกำลังการกลั่นน้ำมันรวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน และเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,100 แห่ง สามารถดำเนินธุรกิจโรงกลั่นได้ ครบวงจรมากยิ่งขึ้น หาน้ำมันดิบได้นานาประการขึ้น และได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีการกลั่น ที่เสริมกันของโรงกลั่นทั้งสอง

การให้บริการด้านการตลาด ที่ครอบคลุม และนำเสนอบริการให้กับลูกค้าได้เพิ่มขึ้นผ่านสถานีบริการน้ำมันทั่วทั้งประเทศ รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนวิชาความรู้ และเทคโนโลยี ช่วยเพิ่มพูนความชำนาญและความสามารถของบุคลากร สร้างความแข็งแรงแกร่งให้ธุรกิจ และนำไปสู่การส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสู่ลูกค้า และเตรียมพร้อมให้กับกลุ่มบริษัทบางจากสำหรับเพื่อการมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

การเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว เป็นการเข้าซื้อหุ้นในรูปร่างปริมาณร้อยละ 65.99 ของปริมาณหุ้นทั้งหมด

ของ เอสโซ่จาก ExxonMobil โดยมีมูลค่ากิจการ 55,500 ล้านบาท และมีกลไกการปรับราคาซื้อขายหุ้นตามที่กำหนดในสัญญาซื้อขายหุ้น ทั้งนี้ แม้อ้างอิงตามงบการเงินสอบทานในไตรมาส 3/2565 ของเอสโซ่ จะได้ราคาเบื้องต้นราว 8.84 บาทต่อ 1 หุ้น โดยราคาสุดท้ายจะมีการปรับตามข้อตกลงที่ตกลงไว้

สำหรับแหล่งเงินทุน บางจากฯ จะใช้เงินทุนทั้งแหล่งด้านนอกจากสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และจากกระแสการเงินสดภายในบริษัท และตระเตรียมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด ภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้นจาก ExxonMobil เสร็จสมบูรณ์ อนึ่ง ExxonMobil จะยังคงดำเนินธุรกิจนำเข้าผลิตภัณฑ์หล่อลื่น และเคมีภัณฑ์ในประเทศไทยต่อไป

ทั้งนี้ การเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นจะอยู่ภายใต้การปฏิบัติตามหลักกฏเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวโยง ดังเช่น กระทรวงพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการควบคุมหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ และขึ้นกับการอนุมัติของผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 โดยคาดว่าจะดำเนินการซื้อขายเสร็จในครึ่งหลังของปี 2566

ด้านเอ็กซอนโมบิลออกแถลงการณ์ขายหุ้นเอสโซ่ ประเทศไทยให้บางจาก ครอบคลุมถึงโรงกลั่นน้ำมันศรีราชา และเครือข่ายสถานีบริการตราเอสโซ่ในประเทศไทย เอ็กซอนโมบิลยังคงหาสินค้าหล่อลื่น และผลิตภัณฑ์เคมีในประเทศไทยถัดไป ศูนย์ธุรกิจระดับโลกกรุงเทพ (Bangkok Global Business Center) กิจกรรมสํารวจและผลิตปิโตรเลียม มิได้รับผลพวงจากการขายหุ้น

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2566 IRVING, Texas เอ็กซอนโมบิล ได้บรรลุข้อตกลงกับ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อขายหุ้น บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“เอสโซ่”) ซึ่งรวมถึงโรงกลั่นศรีราชา คลังเก็บน้ำมันบางแห่ง และโครงข่ายสถานีบริการตราเอสโซ่ โดยถือมั่นสำหรับการสร้างเสริมมูลค่า และความรู้ความเข้าใจในการแข่งขันโดยรวม ธุรกรรมนี้จะดําเนินการโดยบริษัทในเครือ เอ็กซอนโมบิลเป็นเอ็กซอนโมบิล เอเชีย โฮลดิ้ง พีทีอี. แอลทีดี. ซึ่งมีหุ้นปริมาณร้อยละ 65.99 ในเอสโซ่

“เอ็กซอนโมบิล ใช้วิธีการที่มุ่งเน้นการลงทุนด้านการผลิตทั้งโลกที่จะตอบสนองความต้องการของโลก ด้านเชื้อเพลิงที่ปล่อยก๊าซน้อยลง และสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูง ในขณะเดียวกันก็ขายสินทรัพย์ที่มีคนอื่นเห็นศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น” คาเรน แม็กคีย์ ประธาน บริษัท เอ็กซอนโมบิล โพรดัก โซลูชันส์ กล่าว “เราตระหนักถึงความสามารถและความมุ่งมั่นของเพื่อนพนักงานในประเทศไทยที่ได้จัดหาผลิตภัณฑ์ให้แก่ตลาดในประเทศไทยและประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขงได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัยมากว่า 125 ปี และขอขอบคุณเพื่อนพนักงานที่ทุ่มเทในการทำงาน”

เอสโซ่ประเทศไทย

เอ็กซอนโมบิล จะยังคงหาผลิตภัณฑ์หล่อลื่น และสินค้าเคมีภายใต้ตราของเอ็กซอนโมบิล ให้แก่ตลาดในประเทศไทย

ผ่านการจัดตั้งบริษัทใหม่ ส่วนกิจกรรมสำรวจและผลิตน้ำมันปิโตรเลียม ภายใต้การปฏิบัติงานของ บริษัท เอ็กซอนโมบิล เอ็กซ์โพลเรชั่น แอนด์ โพรดักชั่น โคราช อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเอ็กซอนโมบิล และศูนย์ธุรกิจระดับโลกกรุงเทพ ซึ่งมีพนักงานราวๆ 2,000 คน จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรก็แล้วแต่

เอ็กซอนโมบิล ยังคงมุ่งเน้นการจัดการที่ไม่เป็นอันตรายโดยตลอด อีกทั้งปฏิบัติงานเพื่อให้มั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามข้อผูกมัดที่มีกับลูกค้า หน่วยราชการ และหน่วยงานควบคุมดูแลที่เกี่ยวข้อง

การซื้อขายหุ้นดังกล่าว คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ภายใต้ข้อตกลง และกฎระเบียบทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล