AWC ตั้งบริษัทย่อยบริหาร“เดอะ เวสทิน สิเหร่ ภูเก็ต”มูลค่า 3.5 พันล้าน

AWC ของ”เจ้าสัวเจริญ”รุกลงทุนสม่ำเสมอ ประกาศตั้งบริษัทย่อย ภูเก็ต คอลเล็กชั่นส์ พรอพเพอร์ตี้ บริหารโครงการ เดอะ เวสทิน สิเหร่ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต มูลค่าลงทุนกว่า 3.5 พันล้านบาท

ดร.กานต์ ปฏิเวธวรรณกิจ หัวหน้าคณะสายงานบัญชี และการคลังบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (AWC) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทได้ปฏิบัติการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ ปริมาณ 1 บริษัท

ชื่อ บริษัท ภูเก็ต คอลเล็กชั่นส์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ทุนจดทะเบียน 100,000 บาท มีหุ้นสามัญ 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เพื่อรองรับการเข้าลงทุนในโครงการ เดอะ เวสทิน สิเหร่ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต

โครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท ภูเก็ต คอลเล็กชั่นส์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ประกอบด้วย AWC ถือจำนวนร้อยละ 25 บริษัท ทีซีชี โฮเทล แอสเสท แมนเนจเมนท์ จำกัด หรือ THAM ถือปริมาณร้อยละ 75 และ บริษัท แอสเสท เวิรด์ รีเทล จำกัด (AWR) ถือ 1 หุ้น

AWC เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ในเครือทีซีซี ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ประกาศแผนลงทุน 5 ปี (ปี 2565-2569) วงเงิน 100,000 ล้านบาท สำหรับในการพัฒนาธุรกิจโรงแรม และค้าปลีก ต่อเนื่อง 15 โครงการ

ซึ่งเมื่อสิ้นปี 2565 ได้เข้าซื้อกิจการ และพัฒนาต่ออีก 2 โครงการในกรุงเทพฯ และภูเก็ต รวมมูลค่าลงทุน 8,850 ล้านบาท

ในกรุงเทพดังเช่น โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว แบงค็อก วินด์เซอร์ มูลค่าที่ซื้อ 3,180 ล้านบาท และใช้งบประมาณลงทุนพัฒนาโครงการ อีก 2,120 ล้านบาท รวมเงินทุนราว 5,300 ล้านบาท

ที่ภูเก็ต คือโรงแรม เดอะ เวสทิน สิเหร่ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต มูลค่ารวม 2,450 ล้านบาท และใช้งบประมาณลงทุนพัฒนาโครงการอีก 1,100 ล้านบาท รวมลงทุนราว 3,550 ล้านบาท

ปัจจุบัน AWC มีโรงแรมรวม 19 แห่ง แบ่งเป็น 8 แห่งในกรุงเทพฯ และโรงแรมในบ้านนอก 11 แห่ง ทั้งในภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน กระบี่ สมุย รวม 5,201 หอพัก

ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2565 AWC มีกำไรทั้งสิ้นตามงบการเงิน 1,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% และตอน 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 2,448 ล้านบาท ผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นมา จากเหตุการณ์โควิด ที่คลี่คลาย และมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น

ราคาหุ้น AWC ปิดตลาดวานนี้(17เดือนมกราคม) ที่ 5.95 บาท

ขอบคุณภาพที่เอามาจาก เดอะ เวสทิน สิเหร่ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต

เดอะ เวสทิน สิเหร่

ทายาทเจ้าสัวเจริญ ดัน AWC เดอะ เวสทิน สิเหร่ ลงทุน 1 แสนล้าน รับท่องเที่ยวฉลุย

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC บอกว่า ธุรกิจของ AWC ในปีนี้มีการขยายตัวของรายได้มากขึ้นตลอด โดยในปีนี้รายได้ของ AWC จะสูงกว่าปี 2562 ด้วยเหตุว่า 3 ปัจจัยหลัก อย่างเช่น

1.AWC มีธุรกิจในพอร์ตโฟลิโอมากขึ้น

2.แนวโน้มการเติบโต ของนักท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น จากปีก่อนหน้า ซึ่งมีทิศทางเติบโตมาตั้งแต่ ไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งปัจจุบัน โดยเฉพาะไตรมาสแรกปีนี้จัดว่าดียิ่งกว่าตอนเดียวกันของปีที่ผ่านมามากมาย บางโรงแรมมี อัตราการเข้าพักเฉลี่ย 80 – 90 % ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิด โควิด-19

3.ราคาค่าห้องพักเฉลี่ย ที่สามารถปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น บางโรงแรมมากขึ้นได้กว่า 20% เนื่องจากตรงกับตอน ไฮน์ซีซัน ประกอบกับ นักท่องเที่ยว จากหลายประเทศเริ่มเดินทาง เข้าไทยได้มากขึ้น จากจำนวนเที่ยวบินต่างๆ ที่ทำการบินเข้าไทย ที่มากขึ้นสม่ำเสมอ

รวมทั้งการเปิด ประเทศของจีน ก็ทำให้เวลานี้มีนักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT (เดินทางเที่ยวด้วย ตัวเอง)เดินทางเข้าไทยมาก่อน ในช่วงเวลานี้ ซึ่งนับว่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ส่วนกรุ๊ปทัวร์จีน เวลานี้ยังไม่มากมาย อาจจำต้องใช้เวลาประกอบกับ ด้วยราคาตั๋วเครื่องบิน ที่เพิ่มสูงขึ้น นักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้ามาก็เลยเป็นกลุ่มมีกำลังซื้อ ซึ่งก็ตรงกับกลุ่มจุดหมายของ AWC ที่พวกเราโฟกัสตลาดไฮเอนท์เป็นหลัก

นางวัลลภา ไตรโสรัส ยังกล่าวว่ากล่าว จากการขยายตัวของนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นตลอด ทาง AWC ยังคงเดินหน้าลงทุนตามแผน 5 ปี (ปี 2565-2569)และเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับเหตุการณ์ตามแผน 5 ปี (ปี 2565-2569) โดยได้วางงบลงทุนไว้ที่ 100,000 ล้านบาท

โดยมีโครงการที่อยู่สำหรับในการพัฒนาสม่ำเสมอ 15 โครงการ มูลค่าลงทุนรวมโดยประมาณ 60,000 ล้านบาท อาทิเช่น อควาทีค เดอะบีชฟรอนท์ พัทยา ,เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ส่วนต่อขยาย ,บันยันทรี จอมเทียน, พัทยา , พัทยา แมริออท รีสอร์ท&สปา แอท จอมเทียน บีช ,เวิ้ง นครเกษม

ส่วนอีก 40,000 ล้านบาท จะมองดูช่องทางในการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งที่ผ่านมามีโรงแรม ทยอยเสนอขายเข้ามากว่า 200 แห่ง แต่การจะซื้อหรือไม่ จะต้องวิเคราะห์โอกาสการลงทุนที่เกิดขึ้นด้วย

เดอะ เวสทิน สิเหร่ฯ ภูเก็ต

ทั้งนี้ในปีนี้ AWC มีแผนสำหรับการจะเปิดโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล ในตอนไตรมาส 1 ปีนี้ รวมทั้งโรงแรมแมริออท เชียงใหม่

นอกนั้นเรายังจุดโฟกัสการลงทุนโครงการใหม่ๆของ AWC ก็ย้ำการพัฒนาสู่ความคงทนถาวรพร้อมทั้ง การจัดการต้นทุน และกระแสเงินสด จากการที่ดอกปรับมากขึ้น

ทั้งบริษัทยังได้กำหนดเป้าหมายจะเป็น Carbon Neutral เป็นการลดการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือนกระจก สุทธิให้เป็นศูนย์ ในปี 2572 โดยในช่วง 5 ปีจากนี้ ตั้งแต่ปี 2565-2569 บริษัทจะเน้นลงทุนพัฒนาโครงการ ตามอุบาย Carbon Neutral ที่คิดถึงมาตรฐานอาคารสีเขียว และได้รับการยืนยันมาตรฐาน EDGE

เป็นต้นว่า โรงแรมอินเตอร์ คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล, โรงแรม อินน์ไซด์ กรุงเทพ สุขุมวิท ซึ่งถือเป็นโครงการ ที่ก่อสร้างโดยพิจารณาถึงมาตรฐาน อาคารสีเขียว และได้รับการรับรองมาตรฐาน EDGE ซึ่งจัดแจงเปิดให้บริการในต้นปี 2566

โครงการ อควาทีค เดอะบีช ฟรอนท์ พัทยา ซึ่งตั้งเป้าหมายให้ได้รับการยืนยัน LEED ในปี 2569

โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ส่วนต่อขยายที่ตั้งเป้าให้ได้รับการรับรอง LEED & WELL ในปี 2572

ตอนนี้ AWC มีธุรกิจโรงแรม และบริการ 19 แห่ง กลุ่มห้างสรรพสินค้า 9 แห่ง อาคารสำนักงาน 4 แห่ง กลุ่มธุรกิจค้าส่ง 4 แห่ง รวม 34 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนาใหม่อีก 15 แห่ง