สตง.สอบ “กรมควบคุมโรค-สธ.” ควัก 1.5 พันล.รับมือ โควิด เหลว ทำงานล่าช้านับปี
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแพร่ผลตรวจตราการ “ กรมควบคุมโรค – สำนักงานปลัด สธ. ” ใช้งบประมาณ 1.5 พันล้าน ต่อกรสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด – 19 ระบาด เจอไม่เป็นไปตามแผนงาน ชักช้านานนับปี รับมือได้ไม่ทันกาล จัดซื้อครุภัณฑ์ชักช้า – มิได้ใช้ประโยชน์ บางสิ่งบางอย่างยกเลิก
เมื่อเร็วๆนี้ สตง. เผยแพร่รายงานการตรวจสอบความสำเร็จ และสมรรถนะการปฏิบัติงาน โครงการด้านสาธารณสุข เพื่อรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉิน สาเหตุจากการระบาด ของโรคติดเชื้อ โควิด – 19
สืบเนื่องจากกรณีสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เสนอแผนงานหรือโครงการเพื่อขอรับการจัดสรรเงินกู้ตาม พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ปัญหาเยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 พุทธศักราช 2563 ภายใต้แผนงานย่อย 1.5 คือ แผนงาน หรือโครงการด้านสาธารณสุขเพื่อต่อกรเหตุการณ์ฉุกเฉิน อันเนื่องมาจากการระบาดของโรคติด เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นจำนวนเงิน 1,517.26 ล้านบาท
โดย สตง.มีข้อตรวจพบของ กรมควบคุมโรค ในหัวข้อสำคัญ
การดำเนินโครงการไม่เป็นไปตามแผนงาน และครุภัณฑ์ ที่จัดซื้อบางรายการมิได้เอาไปใช้ สำหรับเพื่อการต่อกรสถานการณ์เร่งด่วน จากการระบาดของโรคได้อย่างทันกาล แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1.โครงการเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุข เพื่อจัดการสถานการณ์เร่งด่วน อันเนื่องจากว่าการระบาดของเชื้อ โควิด-19 มีการจัดการโครงการล่าช้า 8 เดือน
2.โครงการค้นหาเชิงรุกสำหรับกลุ่มเสี่ยงของโรค โควิด-19 มีการดำเนินการโครงการล่า 8 เดือนเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ถ้าหากไตร่ตรองจากข้อเท็จจริง และข้อมูลที่แสดงถึงระดับความร้ายแรง ของสถานการณ์ของโรคในแต่ละช่วง พบว่า การดำเนินกิจกรรม ในโครงการบางส่วน ที่มุ่งมาดเป็นการป้องกัน หรือควบคุม ยับยั้งการระบาด ไม่ประสบความสำเร็จ โดยไม่สอดคล้องกับระดับความร้ายแรงในแต่ละระยะเวลา
จึงไม่สามารถปรับปรุงสถานการณ์เร่งด่วน ได้อย่างทันกาล โดยโครงการจัดแจงด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินนั้น ใช้ระยะเวลาดำเนินโครงการยาวนานตั้งแต่ระลอก ที่ 1-4 รวม 1 ปี 8 เดือน ส่วนโครงการค้นหาเชิงรุกในระดับพื้นที่ ใช้ระยะเวลาปฏิบัติการตั้งแต่ระลอก 3 เป็นต้นมา รวมระยะเวลาดำเนินโครงการนานถึง 1 ปี 3 เดือน
ช่วงเวลาเดียวกัน การจัดซื้อครุภัณฑ์บางรายการมีความช้า บางรายการมิได้ใช้ประโยชน์ นอกเหนือจากนี้ยังมีการยกเลิกการใช้จัดซื้ออีกด้วย
หลายชาติ เริ่มกังวล โรคปริศนา-คล้าย โควิด ระบาดใน อัฟกานิสถาน ดับแล้ว 21
หลายประเทศเริ่มหนักใจ โรคติดต่อปริศนา ลักษณะของการป่วยคล้ายโควิด ระบาดทาง ตะวันออกเฉียงเหนือ ของอัฟกานิสถาน เสียชีวิตแล้ว 21 ยังไม่รู้จักเป็นเชื้อโรคอะไร
เมื่อ 25 เดือนมกราคม 2566 สื่อต่างถิ่นติดตามโรคติดต่อปริศนา ที่กำลังระบาด ในภูมิภาควาคาน (Wakhan) ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของอัฟกานิสถาน ทำให้มีคนเสียชีวิตแล้วอย่างต่ำ 21 ศพ ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอัฟกานิสถานกำหนด โรคติดต่อปริศนา ก่อให้เกิดลักษณะการป่วย เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ คล้ายกับโรค โควิด-19 อย่างยิ่ง
ปัจจุบันนี้ กำลังเกิดความรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจ โรคปริศนานี้บางทีอาจแพร่ระบาดไปไกลกว่ารอบๆภูมิภาควาคานแล้ว โดยทางการ ปากีสถาน ซึ่งมีพรมแดนติดกับอัฟกานิสถาน ได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางมาติดตามเหตุการณ์ ในภูมิภาควาคาน เพื่อสืบสวนการระบาดของโรค
เช่นเดียวกับทางการ คีร์กีซสถาน ประเทศในเอเชียกลาง แม้ไม่มีพรมแดนติดกับอัฟกานิสถาน แต่ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางมาติดตามสถานการณ์ระบาด ของโรคติดต่อปริศนาใน อัฟกานิสถาน ด้วยความไม่สาบายใจ
สำนักข่าว Bakhtar ในอัฟกานิสถาน อ้างถึงว่า มีเยาวชนในเมืองบักห์ลาน ทางภาคเหนือของอัฟกานิสถานเสียชีวิตขั้นต่ำ 50 ศพ เมื่ออาทิตย์ก่อน หลังล้มป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลในเมืองบักห์ลาน เปิดเผยว่ามีเยาวชนกว่า 1,000 ผู้เจ็บป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเมื่อเดือนที่ผ่านมา
ขณะที่คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ซึ่งคอยดูแลโรงพยาบาล 33 แห่งในอัฟกานิสถาน ยังรายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า มีเด็กๆในอัฟกานิสถานเข้ารับการรักษา ด้วยอาการปอดอักเสบ ที่โรงพยาบาลในปี 2022 มากขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ข้อมูลของ ICRC ที่ออกมาเมื่อต้นเดือนม.ค. นี้ ยังเปิดเผยว่า พบผู้ที่เจ็บป่วยที่มีสาเหตุมาจากโรคปอดอักเสบทั่วประเทศอัฟกานิสถาน ในปี 2022 ปริมาณ 213,049 ราย มากขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปีกลาย
ขณะที่โรคติดต่อปริศนากำลังระบาดไปทั่วประเทศ อัฟกานิสถาน เจ้าหน้าที่รัฐบาลตาลีบัน ที่ดูแลอัฟกานิสถาน ยังกล่าวว่าตามสถานพยาบาลในจังหวัดต่างๆมีพสกนิกรป่วยจากการติดเชื้อปริศนาเพิ่มขึ้น แต่ จนถึงบัดนี้ นักระบาดวิทยาในอัฟกานิสถานยังไม่สามารถที่จะระบุได้ว่าโรคติดต่อปริศนานี้มีเหตุที่เกิดจากเชื้อโรคอะไร.